Last updated: 16 ธ.ค. 2565 | 2759 จำนวนผู้เข้าชม |
และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1-9 รวม 400 นาย เพื่อทำความเข้าใจ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2558 ตาม คำสั่ง คสช.ที่ 67/2559 ลงวันที่ 10 พ.ย. 2559 กรณีต่อทะเบียนใบอนุญาตอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย และเจ้าของธุรกิจรักษาความปลอดภัยที่ต้องยื่นความประสงค์ขอรับใบอนุญาตต่อนายทะเบียนจังหวัด ณ ที่ทำการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทุกพื้นที่ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ หากผ่าฝืนจะมีโทษทั้งจำคุกและทั้งปรับ
โดยผู้ที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ใดประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทางคณะกรรมการบริษัทไม่นิ่งนอนใจเรียกพนักงานทุกหน่วยงานมาพิมพ์ลายนิ้วมือและยื่นเอกสารขอรับใบอนุญาต ให้แล้วเสร็จ.
สำหรับ พระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ. 2558 มีเนื้อหาทั้งสิ้น 76 มาตรา สาระสำคัญ ดังนี้
1.ให้มีคณะกรรมการกํากับธุรกิจรักษาความปลอดภัย ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ กรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ อธิบดีกรมการปกครองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคผู้อํานวยการสํานักงานกิจการยุติธรรม ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย และผู้อํานวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจํานวนหกคนในจํานวนนี้จะต้องเป็น ผู้แทนจากองค์กรภาคเอกชนที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยไม่น้อยกว่าสองในสามให้ผู้บัญชาการตํารวจนครบาลเป็นกรรมการและเลขานุการและข้าราชการตํารวจยศพันตํารวจตรีขึ้นไปในกองบัญชาการตํารวจนครบาลซึ่งผู้บัญชาการตํารวจนครบาลแต่งตั้งจํานวนไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
2.ผู้ประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยต้องเป็นบริษัท และได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัยจากนายทะเบียน
3. บริษัทรักษาความปลอดภัยต้องใช้คํานําหน้าชื่อว่า “บริษัทรักษาความปลอดภัย” และคําว่า “จํากัด” หรือ “จํากัด (มหาชน)” ต่อท้าย แล้วแต่กรณี
4.การให้บริการรักษาความปลอดภัยต้องทําสัญญาเป็นหนังสือระหว่างบริษัทรักษาความปลอดภัยและผู้ว่าจ้าง ซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการ 8 ข้อ
5. ให้บริษัทรักษาความปลอดภัยจัดทําบัญชีรายชื่อพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตยื่นต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัย
6. ผู้ใดประสงค์จะทําหน้าที่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตต้องได้รับใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตจากนายทะเบียน
7. ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตต้องมีคุณสมบัติ มีสัญชาติไทย มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ สําเร็จการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ ได้รับหนังสือรับรองว่าได้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการรักษาความปลอดภัย จากสถานฝึกอบรมที่นายทะเบียนกลางรับรองตามวรรคสอง
ลักษณะต้องห้าม
เป็นโรคพิษสุราเรื้อรังหรือติดยาเสพติดให้โทษหรือเป็นโรคติดต่อที่คณะกรรมการ กําหนด เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นผู้เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุกสําหรับความผิดเกี่ยวกับชีวิต และร่างกาย ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ หรือความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน หรือความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิด ที่ได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษหรือพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีก่อนวันขอรับใบอนุญาต และมิใช่ความผิดเกี่ยวกับเพศตามประมวลกฎหมายอาญา เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตมาแล้ว ยังไม่ถึงสองปีนับถึงวันยื่นคําขอรับใบอนุญาตเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาต
8. บริษัทรักษาความปลอดภัยจะกําหนดเครื่องแบบของพนักงานรักษาความปลอดภัย รับอนุญาตให้เหมือนหรือคล้ายคลึงกับเครื่องแบบของทหาร ตํารวจ หรือเครื่องแบบของเจ้าพนักงาน ซึ่งกฎหมายให้มีอํานาจและหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามที่นายทะเบียนกลาง ประกาศกําหนดมิได้
9.ผู้ใดทําหน้าที่เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยรับอนุญาตโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามมาตรา 33 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ (มาตรา63)
ภาพบรรยากาศ พิมพ์ลายนิ้วมือและยื่นเอกสารขอรับใบอนุญาต
24 เม.ย 2563